ด้วยสายตาอันเฉียบแหลมและหัวใจสำนึกรักบ้านเกิด “ป๋าเปรม” พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ทุ่มหัวใจให้กับการพัฒนามาตลอดสายตาของป๋ามองเห็นภาพความเป็นอยู่ของผู้คนตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เกาะยอ ชุมชนที่มีทะเลสาบสงขลาล้อมรอบ ป๋ามองเห็นประตูแห่งการเรียนรู้ จึงเปิดโลกให้ผู้คนได้เชื่อมต่อกันด้วยโครงการสะพานเชื่อมต่อผืนแผ่นดินใหญ่กับเกาะยอ และจากนั้นขอบฟ้าใหม่ของการพัฒนาก็เปิดกว้างขึ้นหลังสะพานติณสูลานนท์ทอดยาวเชื่อมต่อสายตาแห่งการเรียนรู้ และพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ ก็ตระหง่านอยู่ที่นั่น ด้วยการผลักดันหนึ่งของป๋า พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
เพราะเล็งเห็นถึงคุณค่าของการศึกษาด้านคติชนวิทยาและการก่อตั้งสถาบันทักษิณคดีศึกษาซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมผลงานไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้ ศิลปะหัตถกรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรมรวมทั้งงานศึกษาวิชาการทางคติชนวิทยาทุกแขนง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นจึงสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมในการก่อสร้างสถาบันทักษิณคดีศึกษา ซึ่งต่อมาได้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าทางคติชนวิทยาของภาคใต้ที่สำคัญแห่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีเดินทางมาประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ สถาบันทักษิณคดีศึกษา ณ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 ดวงตาของท่านมองเห็นรากฐานสำคัญที่เชื่อมร้อยมหาวิทยาลัยอันเป็นสถาบันการศึกษารับใช้สังคมเข้าด้วยกันกับสังคมผ่านการเรียนรู้กับสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ สถาบันแห่งคุณค่าอัตลักษณ์ความเป็นใต้อันโออ่าบนเกาะยอที่ยืนหยัดผ่านเวลาอย่างยาวนานแห่งนี้
นอกจากการมองเห็นความสำคัญของการศึกษาทางด้านคติชนวิทยาแล้ว พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ยังเป็นคนลุ่มลึกและสง่างาม และให้ความสนใจเรื่องดนตรี ดวงตาแห่งทหารกล้าของแผ่นดิน ยังมองหยั่งลึกถึงสุนทรียะอันบ่งบอกความเป็นมนุษย์ ท่านได้ประพันธ์บทเพลงไว้มากมาย หลากหลายบทเพลงที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ประพันธ์ขึ้น ล้วนใช้ภาษาได้อย่างงดงาม และสอดรับกับท่วงทำนองที่น่าฟัง เต็มไปด้วยจินตการและความรู้สึกละเมียดละไม เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนที่ได้รับฟัง ตัวอย่างเช่น บทเพลงใต้แสงจันทร์, ขอสัญญา, กลิ่นนาง, แค่ฝัน, หมายปอง, ไม้ขีดกับดอกทานตะวัน, รักหาย, ฉายเดี่ยว, ตาห่างใจไม่ห่าง, As if an angel, Love at large และ “ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”
หลายบทเพลงของท่านแต่งขึ้นในวัยหนุ่มเมื่อครั้งยังเป็นนายทหารยศร้อยโทอยู่เชียงตุง ซึ่งย้อนรำลึกความหลังไปเมื่อราว 70 ปีก่อน ป๋าเคยกล่าวไว้ว่า
ดนตรีทำให้ผมมีความสุข แต่ผมจะสุขที่สุด ถ้าดนตรีสามารถส่งผลดีต่อแผ่นดิน
ด้วยเหตุผลนี้จึงเป็นต้นธารให้มหาวิทยาลัยทักษิณขออนุญาตนำชื่อของพลเอกเปรมมาตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการดนตรีและหอศิลปะการแสดงเพื่อเป็นเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจในชื่อว่า “อาคารหอเปรมดนตรี”
อาคารหอเปรมดนตรี เป็นอาคารแบบร่วมสมัยผสมผสานกับศิลปะพื้นถิ่นภาคใต้และสถาปัตยกรรมพื้นบ้าน จำนวน 4 ชั้น มีชั้นใต้ดินสำหรับจอดรถ มีพื้นที่ใช้สอย รวม 11,700 ตารางเมตร จำนวนที่นั่ง 1,860 ที่นั่ง โดยเน้นการใช้ประโยชน์ในการแสดงดนตรีและศิลปะการแสดง ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา เป็นศูนย์ปฏิบัติการดนตรีและหอศิลปะการแสดงที่สมบูรณ์แบบสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่มหาวิทยาลัยทักษิณและสังคมส่วนรวม
ดนตรีทำให้ผมมีความสุข แต่ผมจะสุขที่สุด ถ้าดนตรีสามารถส่งผลดีต่อแผ่นดิน
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
Comments