รูปแบบการบริโภคอาหารที่มีความสามารถในการลดภาวะเสื่อมของสมองได้มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบการบริโภคอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนี่ยน และอีกรูปแบบหนึ่งคือ อาหารแบบแดซ ทั้ง 2 รูปแบบนี้พบว่ามีศักยภาพในการลดภาวะเสื่อมของสมองได้จริง แต่ยังคงไม่เพียงพอและได้มีการนำทั้ง 2 รูปแบบมารวมกันโดยดึงข้อดีทั้ง 2 รูปแบบ จากส่วนของเมดิเตอร์เรเนี่ยนสไตล์ คือ การใช้น้ำมันมะกอกเป็นส่วนประกอบหลักที่เป็นอาหารจำพวกไขมัน รวมทั้งการรับประทานผักและผลไม้ การกินธัญพืชหรือข้าวที่ไม่ขัดสี การรับประทานปลา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมทั้งการรับประทานโยเกิร์ตทุกวัน
สำหรับการบริโภคแบบแดช คือการทานอาหารที่ลดรสชาตของอาหารลงมาคือ ลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม เมื่อนำ 2 รูปแบบมารวมกันนั้น พบว่าความสามารถในการลดภาวะสมองเสื่อมของสมองมีมากถึง 4.6 เท่า (แบบแดซเท่ากับ 2.6 เท่า และแบบเมดิเตอร์เรเนี่ยนเท่ากับ 2.5 เท่า) จากการสำรวจชุมชนในพื้นที่พัทลุงพบว่าควรจะมีเมนูอาหารที่สอดคล้องกับการบริโภคแบบมายด์เพื่อลดภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุซึ่งพบว่าในชุมชนมีวัตถุดิบที่หาได้ง่าย เช่น ปลาช่อนจากทะเลน้อย เครื่องแกงใต้ และเห็ดแครง และคิดค้นสูตรเมนูอาหารคาวได้เป็นเมนู “สเต็กปลาช่อนพริกแกงใต้เห็ดแครง”
โดยพบว่าในปลาช่อนมีสารอาหารที่มีประโยชน์คือเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่เป็นสารชะลอความเสื่อมของเซลล์ในสมองได้ ในพริกแกงใต้มีสารเคอร์คิวมินจากขมิ้นที่เป็นสารต้านการอักเสบและต้านการเกิดอนุมูลอิสระได้ และสำหรับเห็ดแครงนั้นมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
และจากการสำรวจยังพบว่าในแต่ละครัวเรือนมีการปลูกเสาวรสเกือบทุกครัวเรือน จึงคิดค้นสูตรเป็นอาหารหวาน โดยเอาเสาวรสมารวมกับโยเกิร์ต กลายเป็นเมนูใหม่ชื่อว่า “พุดดิ้งเสาวรสโยเกิร์ต” โดยการนำน้ำเต้าหู้มาทำเป็นพุดดิ้ง สำหรับเสาวรสซึ่งเป็นผลไม้ที่สารเบต้าแคโรทีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมารวมกับโยเกิร์ตที่มีสารโปรไบโอติก กลายเป็นเมนูที่ท่านง่ายและมีประโยชน์ต่อผู้สูงอายุทั้งสองเมนู
.
: สถาบันอายุยืน
: คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา
Comments